เพิ่มหนังสือเข้าตะกร้าเรียบร้อยแล้วค่ะ

18+
หนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาบางส่วนเหมาะสำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กดปุ่ม "ดำเนินการต่อ" หากต้องการเพิ่มสินค้าลงในตะกร้า
ค้นหา
Thai
All Categories
    Menu Close
    Back to all

    พูดคุยกับ ‘หมอตุ๊ด’ พร้อมผลงานนิยายวายข้ามมิติ ที่ได้แรงบันดาลใจจากนิทานพื้นบ้าน ‘How I Met Your Father จักรวาล วงศ์ วาย’ ในโปรเจกต์ ARN Exclusive

    พูดคุยกับ ‘หมอตุ๊ด’ พร้อมผลงานนิยายวายข้ามมิติ ที่ได้แรงบันดาลใจจากนิทานพื้นบ้าน ‘How I Met Your Father จักรวาล วงศ์ วาย’ ในโปรเจกต์ ARN Exclusive

    เจ้าของเพจเฟซบุ๊คเล่ามุมมองการใช้ชีวิตอย่าง ‘หมอตุ๊ด’ หรือที่รู้จักกันในวงการนักเขียน จากนามปากกา ‘รังสิมันต์’ เจ้าของผลงานนิยายดังหลายเรื่อง และถูกนำไปต่อยอดเป็นทีวีซีรีส์ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น ‘Wake Up ชะนี!’ หรือ ‘รักนาย My Ride’ วันนี้คุณหมอกลับมาพร้อมนิยายวายใหม่แกะกล่อง ‘How I Met Your Father จักรวาล วงศ์ วาย’ รับรองว่าแปลก แหวกแนว ต้องลองอ่าน!

    .

    ‘How I Met Your Father จักรวาล วงศ์ วาย’ โดย รังสิมันต์ (หมอตุ๊ด) เป็นนิยายวายจากโปรเจกต์ ARN Exclusive : Stories Come Alive ที่เกิดจากการรวมตัวกันของนักเขียนนิยายชื่อดัง 4 คน 4 สไตล์ Hideko_Sunshine, แสตมป์เบอรี่, ภาคินัย, และรังสิมันต์ (หมอตุ๊ด) กับการถ่ายทอดเรื่องราวของ ‘โลกคู่ขนาน’ ซึ่งนิยายเรื่องนี้ของหมอตุ๊ด บอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะโลกคู่ขนานใบนี้คือโลกนิทานพื้นบ้านที่พวกเรารู้จักกันดี แต่เส้นเรื่องกลับแตกต่างออกไปน่ะสิ

    .

    จักรวาล วงศ์ วาย เล่าเรื่องราวของ ‘อนาวินทร์’ กับ ‘ชินพงศ์’ องค์ชายต่างเมือง ผู้พลาดมาลัยของนางรจนาทั้งคู่ ในเมื่อเมืองใกล้กัน จึงกลับด้วยกัน และการเดินทางครั้งนั้นเอง ทำให้พวกเขาได้ผจญภัยในโลกนินานพื้นบ้านที่เส้นเรื่องผิดเพี้ยนไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นนางเอื้อยที่ไม่ยอมให้นางขนิษฐีและอ้ายกดขี่ หรือสังข์ทองที่ตัดสินใจอยู่กับนางพันธุรัตอย่างมีความสุข การผจญภัยที่มาพร้อมความรักครั้งนี้ของพวกเขาจะเป็นอย่างไร แค่คิดก็หรรษาแล้ว!

    .

    วันนี้ ARN Application มีโอกาสพูดคุยกับ ‘หมอตุ๊ด’ ขอบอกเลยว่าคุณหมอเล่าเรื่องเก่ง และมีมุมมองที่น่าสนใจเยอะมาก ตามมาอ่านบทสัมภาษณ์กันดีกว่า~

    .

    คำถาม : ถ้าคุณหมอสามารถข้ามมิติไปยังโลกใดก็ได้ ในช่วงเวลาไหนก็ได้ โลกที่จะข้ามไป จะมีความพิเศษอย่างไร?

    รังสิมันต์ (หมอตุ๊ด) : ถ้าเป็นไปได้ อยากไปอยู่ในโลกที่มีซอมบี้ครับ แล้วก็มีสเตตัสแบบเกมส์ออนไลน์ขึ้นบนหัวด้วย แบบมีค่าพลังต่างๆ 5555 คือผมเป็นคนบ้าซอมบี้อ่ะครับ ชอบซอมบี้มาก ขนาดที่ว่าเวลามีคนถามว่าจบเฉพาะทางด้านไหน ผมจะตอบว่าจบด้านซอมบี้และปีศาจชนิดซากศพครับ 555555

    เคยฝันว่าอยากจะตื่นมาแล้วอยู่ในโลกซอมบี้ รู้ไหมในคอนโดผมอ่ะ ผมมีกระเป๋าเป้ยังชีพไว้ 1 ใบที่ข้างในจะใส่ของยังชีพเผื่อไว้ อาหารแห้ง ผลไม้แห้ง น้ำ ไฟฉาย เชือก ยารักษาโรคพื้นฐาน แผนที่ ทิชชู่เปียก ผ้าเช็ดตัวแห้งไว กระจกสะท้อนแสง เมล็ดพืชผัก มีดพับต่างๆ เผื่อไว้เช้าไหนตื่นมาแล้วโลกตกอยู่ในวิกฤตซอมบี้จริงๆ ผมจะได้คว้ากระเป๋าเป้แล้วออกไปลุยได้เลยฮะ

    ผมว่าการอยากไปอยู่ในโลกอีกแบบ เป็นความรู้สึก escaping ของเรานะ มองในแง่จิตวิทยา

    มันเหมือนกับว่า เราไม่ค่อยชอบโลกใบนี้เท่าไหร่นัก แง่มุมที่เรารักมันมี แต่มันน้อยกว่าแง่มุมที่ทำให้เราอึดอัด เราจึงจินตนาการอยากไปอีกโลกที่มันตอบสนองใจเราได้มากกว่าโลกนี้ แพทมองว่านิยายแนว izeki ของญี่ปุ่น คือ indicator บ่งบอกอย่างหนึ่งว่าคนในสังคมนั้นๆ เบื่อหน่าและอยากไปอยู่ที่ไหนก็ได้ที่เขารู้สึกสบายๆ

    เห็นได้ว่านิยาย izekai ส่วนใหญ่ในรอบ 1-2 ปีมักจะเน้นการไปชิลๆ สบายๆ ที่ต่างโลก แค่มีสกิลการทำอาหาร ก็ไปอยู่สบายๆ มีความสุขที่ต่างโลกได้แบบชิลๆ หลายครั้งมากนะครับที่นิยายที่ฮิตในช่วงนั้นๆ บอกอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับสังคมและบริบทความต้องการของคน

    พ่อผมบอกว่า เราจะพบโลกใหม่ทันที เมื่อเราเข้าใจว่าเรามีโลกใบนี้แค่ใบเดียว ทีแรกผมไม่เข้าใจหรอกนะ แต่พอเข้าใจเท่านั้นแหละ เข้าใจเลย 55555 โลกใหม่คือ attitude ไม่ใช่ physically และเรามีโลกใบใหม่ได้ทันที ถ้าเราเข้าใจว่ามันไม่เกี่ยวกับโลกเลย แต่มันเกี่ยวกับมุมมองของเรา

    ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ แพทอยากให้ทุกคน enjoy กับโลกใหม่ที่เรากำลังจะไปกันในวันพรุ่งนี้นะครับ

    คำถาม : หมอตุ๊ดรู้สึกอย่างไรกับการได้เป็นหนึ่งในสี่ของนักเขียนโปรเจกต์ ARN Exclusive : แคมเปญ Stories Come Alive

    รังสิมันต์ (หมอตุ๊ด) : คิดว่าหลายคนน่าจะตอบว่า “ดีใจ” หรือ “ตื่นเต้น” ไปแล้วถ้าตอบแบบนั้นก็คงจะซ้ำเนอะ 5555 ตอบว่า “รู้สึกกดดัน” แล้วกันครับ เพราะในความเป็นจริงตอนตื่นเต้น ดีใจน่ะ มันสั้นมากเลยครับ แต่ความรู้สึกกดดันเนี่ยเป็นตลอดเวลาเลย ตั้งแต่ตอนที่ได้รับข้อความ ตอนที่คุยกับทีมงาน กระทั่งตอนนี้ที่กำลังเขียนอยู่ก็รู้สึกกดดันครับ

    แพทไม่ได้ทำงานกับสำนักพิมพ์มานานมากแล้วครั้ง ครั้งสุดท้ายที่ทำงานกับระบบสำนักพิมพ์ก็คือปี 2018 แล้วก็ปี 2019 ทำงานที่เป็น exclusive content กับทางเว็บนิยายเว็บหนึ่ง คือลืมความรู้สึกของการทำงานแบบมีเส้นตาย มีบรรณาธิการ มีทีมงานที่รองาน ไปแล้วอ่ะครับ พอต้องกลับมาฟื้นความทรงจำ กลับเข้าสู่ระบบแบบนี้ มันก็ไม่แปลกนะถ้าจะรู้สึกกดดัน

    อีกอย่างนะครับ ทีมงานนี่ร้ายมาก 55555 ปิดตลอดเลย ไม่รู้เลยว่าอีกสามท่านที่จะมาร่วมโปรเจคด้วยเป็นใคร เดาว่าน่าจะเป็นนักเขียนระดับเก่งๆ ดังๆ นามปากการะดับที่มีคนรู้จักเยอะ นี่ยิ่งทำให้กดดันครับ เพราะแพทเป็นนักเขียนระดับแค่พอมีคนรู้จัก ไม่ถึงขนาดดังมากนัก ผลงานในไทยก็แทบจะไม่มีคนรู้จักเลยด้วย

    อ่ะ... นี่ไง ทำให้รู้สึกตื่นเต้นแล้วก็ดีใจครับ แต่พอผ่านไปปุ๊ป ก็ยิ่งกดดันเข้าไปใหญ่เลยว่า ตายล่ะ แล้วผลงานเราจะดรอปไหมเมื่อเทียบกับคนอื่น ทีมงานบรรณาธิการจะรู้สึกผิดหวังกับเราไหม บลา บลา บลา โอ้ยยย เยอะแยะมากมายเลยครับ กดดันถึงขนาดว่า นั่งมองหน้ากระดาษว่างๆแล้วคิดว่าจะเขียนดีไม่เขียนดี คำต่อไปไม่หลุดออกมาจากหัวเลยครับ

    แม้กระทั่งตอนนี้ที่นั่งตอบคำถามก็ยังรู้สึกกดดันครับ

    กดดันอีกเรื่องคือเวลาครับ ผมคิดไว้ว่าอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ส่งต้นฉบับด้วยครับ 5555 อันนี้ต้องใช้ช่วงเวลาที่แอบว่างมาเขียนแหละครับ เพราะอย่างที่รู้ๆกันเนอะ ตอนนี้เป็นโคตรวิกฤตของ COVID19 เลย วิกฤตขนาดไหนก็คิดดูนะครับว่าขนาดหมอแผนกนิติเวชที่ปกติตรวจแค่ศพ ชิ้นเนื้อ ยังต้องลงมาใส่ชุด PPE `ช่วยกันราวน์คนไข้ COVID19 ด้วยครับ ไม่ได้โอดนะ แต่ผมว่าผมเป็นนักเขียนที่มีเวลาน้อยสุดแล้วจริงๆในการทำงานโปรเจคนี้

    แต่มองอีกแง่ ความกดดันก็ดีนะครับ มันเป็นตัวผลักดันให้เรารอบคอบต่อการทำงาน ไม่ทำงานแบบขอไปที และเรายิ่งจะรู้สึกโคตรสดชื่นเลยเวลาที่ทำงานเสร็จ ผ่านพ้นความกดดันไปได้ ตอนนี้กำลังเขียนอยู่ครับ และหวังว่าจะหลุดพ้นจากภาวะกดดันไวๆ

    อ่านบทสัมภาษณ์แล้วเห็นถึงความตั้งใจจริงของคุณหมอเลยใช่มั้ยล่ะทุกคน~ การันตีได้เลยว่านิยายวายเรื่องใหม่นี้คุณภาพเน้นๆ! สำหรับ ‘How I Met Your Father จักรวาล วงศ์ วาย จะเปิดขายที่ ARN Application เท่านั้น ติดตามรูปแบบเล่มและอีบุ๊กได้ที่นี่ เร็วๆ นี้ ฝากผลงานคุณภาพเรื่องใหม่ล่าสุดของ รังสิมันต์ (หมอตุ๊ด) ด้วยนะ พล็อตแปลกแหวกแนว เล่าเรื่องสนุก ไม่มีเบื่อแน่นอน!